ไปยังหน้า : |
อาจารย์วรรณสิทธิ ไวทยะเสวี อดีตประธานมูลนิธิแนบ มหานีรานนท์รุ.๖๙๕ ได้แสดงเรื่องความวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ของรูปไว้ ดังต่อไปนี้
พระอนุรุทธาจารย์ท่านได้แสดงคาถาที่แสดงความวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ของ สมุฏฐานิกรูปไว้ด้วยคาถาที่ ๑๓ มีความว่า
อิจฺเจวํ มตสตฺตานํ | ปุนเทว ภวนฺตเร | |
ปฎิสนฺธิมุปาทาย | ตถา รูปํ ปวตฺตติ ฯ |
แปลความว่า
ในสันดานแห่งสัตว์ทั้งหลายที่ตายจากโลกนี้ไปแล้ว รูปทั้ง ๔ สมุฏฐานนี้ ย่อมปรากฏเกิดขึ้นในภพใหม่อีก ตั้งแต่ปฏิสนธิกาลเป็นต้นไป ทำนองเดียวกันกับในภพนี้ ดังที่ได้บรรยายมาแล้ว ด้วยประการฉะนี้แล
คำอธิบายเพิ่มเติมของผู้เขียน :
จากคาถาสังคหะที่ท่านพระอนุรุทธาจารย์ได้แสดงเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ของรูปธรรมทั้งหลายนั้น มีอธิบายโดยสังเขปดังต่อไปนี้
เมื่อบุคคลใดตายจากชาติที่เกิดอยู่นั้นแล้ว ไปเกิดในภพภูมิใหม่ที่มีรูปเกิดขึ้นได้ สมุฏฐานิกรูปทั้ง ๔ อย่างเหล่านี้ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้นได้ตามสมควร กล่าวคือ
ถ้าบุคคลนั้นเกิดขึ้นในกามภูมิ ๑๑ ภูมิใดภูมิหนึ่ง สมุฏฐานิกรูปเหล่านี้ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้นได้ทั้ง ๔ ประเภท คือ กัมมชรูป จิตตชรูป อุตุชรูป และอาหารชรูป โดยไม่มียกเว้นเลย
ถ้าบุคคลนั้นเกิดขึ้นในรูปภูมิ ๑๕ [เว้นอสัญญสัตตภูมิ] สมุฏฐานิกรูปเหล่านี้ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้นได้ ๓ ประเภท คือ กัมมชรูป จิตตชรูป และอุตุชรูป [ยกเว้นอาหารชรูป เพราะพวกพรหมทั้งหลายไม่ต้องบริโภคอาหาร]
ถ้าบุคคลนั้นเกิดขึ้นในอสัญญสัตตภูมิ สมุฏฐานิกรูปเหล่านี้ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้นได้ ๒ ประเภท คือ กัมมชรูป และอุตุชรูป
ส่วนผู้ที่ไปบังเกิดในอรูปภูมิทั้ง ๔ นั้น ย่อมไม่มีรูปอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้นเลย ตลอดชาติที่เกิดอยู่ในอรูปภูมินั้น