ไปยังหน้า : |
คำอธิบายเพิ่มเติมของผู้เขียน :
กายวิญญัติรูปนี้ย่อมมีสภาพเป็นธัมมารมณ์ คือ อารมณ์ที่รับรู้ได้ทางใจอย่างเดียวเท่านั้น ไม่สามารถรับรู้สภาวะของกายวิญญัติรูปนี้ทางปัญจทวาร ทวารใดทวารหนึ่งได้เลย เพราะกายวิญญัติรูปนี้มีสภาพเป็นเพียงอาการไหวตัวของร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่รูปารมณ์ที่จะรับรู้ทางจักขุทวารได้ ไม่ใช่สัททารมณ์ที่จะรับรู้ทางโสตทวารได้ ไม่ใช่คันธารมณ์ที่จะรับรู้ทางฆานทวารได้ ไม่ใช่รสารมณ์ที่จะรับรู้ทางชิวหาทวารได้ และไม่ใช่โผฏฐัพพารมณ์ที่จะรับรู้ทางกายทวารได้ เป็นรูปที่ไม่มีรูปร่างสัณฐานของตนอยู่โดยเฉพาะ เป็นเพียงสุขุมรูป คือ รูปที่ละเอียด ซึ่งปรากฏเป็นอาการไหวตัวหรืออาการเคลื่อนไหวของร่างกายอันเป็น นิปผันนรูปเท่านั้น บุคคลทั้งหลายจึงไม่สามารถรับรู้สภาพแห่งกายวิญญัติรูปโดยทวารทั้ง ๕ มีจักขุทวารเป็นต้นได้ดังกล่าวแล้ว เพียงแต่รับรู้สึกทางมโนทวารเท่านั้นว่า “สิ่งนั้นมีอยู่” ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นโดยอาศัยการเห็นรูปที่เคลื่อนไหว หรือจับความรู้สึกที่ปรากฏขึ้นโดยอาศัยการเคลื่อนไหวร่างกายนั่นเอง ซึ่งความรู้สึกในสภาพแห่งกายวิญญัติรูปที่ปรากฏทางมโนทวารนี้ มีลำดับความเป็นไปเหมือนกับสุขุมรูปอื่น ๆ มีอาโปธาตุ เป็นต้นดังกล่าวแล้ว เพียงแต่ในการรับรู้กายวิญญัติรูปนี้ เป็นการรับรู้โดยอาศัยการสังเกตดูการเคลื่อนไหวของร่างกาย หรือจับความรู้สึกในขณะที่ร่างกายเคลื่อนไหวเท่านั้น