| |
หญิง ๔ ประเภท   |  

สตรีในโลกนี้ ย่อมแบ่งเป็น ๔ ประเภทใหญ่ ๆรุ.๒๖๓ คือ

๑. หญิงบางคน เป็นผู้มีรูปชั่วตัวดำไม่น่าดู ทั้งเป็นผู้ยากจนขัดสนทรัพย์สมบัติ และเป็นผู้ต่ำศักดิ์ [ไม่มียศศักดิ์ เกิดในตระกูลต่ำ] เพราะในอดีตชาติ เป็นคนมักโกรธ ไม่ชอบบริจาคทาน และเป็นผู้มีใจริษยา

๒. หญิงบางคน เป็นผู้มีรูปชั่วตัวดำไม่น่าดู แต่เป็นผู้มั่งมีทรัพย์สมบัติมาก และเป็นผู้สูงศักดิ์ [มียศศักดิ์ เกิดในตระกูลสูง] เพราะในอดีตชาติ เป็นคนมักโกรธ แต่เป็นคนชอบบริจาคทาน และไม่มีใจริษยา

๓. หญิงบางคน เป็นผู้มีรูปสวยน่าดูน่าชม ประกอบด้วยทรวดทรงและผิวพรรณงดงาม แต่เป็นคนยากจนขัดสนทรัพย์สมบัติ และเป็นผู้ต่ำศักดิ์ [ไม่มียศศักดิ์ เกิดในตระกูลต่ำ] เพราะในอดีตชาติ เป็นผู้ไม่มักโกรธ แต่ไม่ชอบบริจาคทาน และมีใจริษยา

๔. หญิงบางคน เป็นผู้มีรูปสวยน่าดูน่าชม ประกอบด้วยทรวดทรงและผิวพรรณงดงาม ทั้งเป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์สมบัติมาก ทั้งเป็นผู้สูงด้วยยศศักดิ์ [มียศศักดิ์สูง เกิดในตระกูลสูง] เพราะในอดีตชาติ เป็นคนไม่มักโกรธ ชอบบริจาคทาน ทั้งไม่มีใจริษยา

รูปร่างลักษณะของบุคคลทั้งหลาย ส่วนหนึ่งเกิดมาจากกรรมในชาติปางก่อนที่แต่ละคนได้ทำไว้ และอีกส่วนหนึ่ง เกิดมาจากกรรมที่กระทำในชาติปัจจุบันเป็นตัวสนับสนุน

ถ้าบุคคลมีรูปร่างลักษณะดีเพราะกุศลกรรมในชาติปางก่อนแล้วกระทำกุศลกรรมเพิ่มพูนในปัจจุบันชาติอีก รูปร่างของบุคคลนั้นย่อมมีทรวดทรงสัณฐานและสีสันวรรณะดีสมส่วนและมีบุคคลิกลักษณะงดงาม รูปร่างผ่องใส มีภูมิต้านทานโรคภัยไข้เจ็บ และทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

ถ้าบุคคลนั้นมีรูปร่างงดงามเพราะบุญเก่า แต่กระทำอกุศลกรรมในชาติปัจจุบัน รูปร่างที่งดงามที่เกิดจากบุญเก่าของบุคคลนั้น ย่อมจะถูกอกุศลกรรมที่กระทำในปัจจุบันทำให้เศร้าหมองลง ภูมิต้านทานโรคภัยไข้เจ็บและสภาพแวดล้อมที่เคยมีก็จะลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ เมื่อหมดอำนาจของบุญเก่าแล้ว อกุศลกรรมใหม่ย่อมมีโอกาสให้ผลได้เต็มที่ ทำให้สภาพรูปร่างหน้าตาผิวพรรณวรรณะและสมรรถภาพแห่งรูปร่างของบุคคลนั้นหมดกำลังลงไปด้วย กลายเป็นบุคคลผู้มีรูปร่างเศร้าหมอง มีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า และไม่มีภูมิคุ้มกันต่อสภาพแวดล้อม กลายเป็นคนอ่อนแอไปได้

ถ้าบุคคลนั้นมีรูปร่างเศร้าหมองขี้ริ้วขี้เหร่ เพราะอำนาจอกุศลกรรมในชาติปางก่อน และเป็นผู้กระทำอกุศลกรรมเพิ่มพูนในปัจจุบันชาติอีก อกุศลกรรมในปัจจุบันชาตินั้นย่อมช่วยสนับสนุนให้รูปร่างหน้าตาและผิวพรรณวรรณะ ตลอดถึงทรวดทรงสัณฐานของบุคคลนั้น มีความเศร้าหมองขี้ริ้วขี้เหร่น่าเกลียดน่ากลัวมากขึ้น หรือทำให้ภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บและภูมิต้านทานสภาพแวดล้อมลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จนหมดกำลังลงในที่สุด รูปร่างทรวดทรงสัณฐานและสีสันวรรณะตลอดถึงบุคคลิกภาพของบุคคลนั้นย่อมจะหมดสง่าราศีและหมดสภาพลงโดยสิ้นเชิง

ถ้าบุคคลนั้นมีรูปร่างเศร้าหมองขี้ริ้วขี้เหร่ เพราะอำนาจอกุศลกรรมในชาติปางก่อน แต่เป็นผู้กระทำกุศลกรรมเพิ่มพูนขึ้นในชาติปัจจุบัน รูปร่างเศร้าหมองขี้ริ้วขี้เหร่ที่เกิดจากอกุศลกรรมเก่าของบุคคลนั้น ย่อมถูกกุศลกรรมที่กระทำในปัจจุบันทำให้มีสมรรถภาพดีขึ้น มีภูมิต้านทานโรคภัยไข้เจ็บและต้านทานสภาพแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ เมื่อหมดอำนาจของอกุศลกรรมเก่าแล้ว กุศลกรรมใหม่ย่อมมีโอกาสให้ผลได้เต็มที่ ทำให้สภาพรูปร่างหน้าตาผิวพรรณวรรณะและสมรรถภาพแห่งร่างกายของบุคคลนั้นมีกำลังเพิ่มพูนมากขึ้นไปด้วย กลายเป็นบุคคลผู้มีรูปร่างงดงาม ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน และมีภูมิคุ้มกันสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี กลายเป็นคนเข้มแข็งขึ้นมาได้


เกี่ยวกับตำราอภิธรรม ออนไลน์ (Disclaimer)
ตำราอภิธรรมออนไลน์ พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของอภิธรรมมหาวิทยาลัย วัดระฆังฯ วัดญาณเวศกวัน และ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เพื่อนำเสนอสื่อธรรมสำหรับการศึกษาค้นคว้า โดยได้รับอนุญาต และเอกสารต้นฉบับจากผู้เขียน ดังนี้
(๑) พระมหาชินวัฒน์ จกฺกวโร (๒๕๕๒), จิตปรมัตถ์: คู่มือศึกษาอภิธัมมัตถสังคหะ ปริเฉจที่ ๑, พิมพ์ครั้งที่ ๑.
(๒) พระมหาชินวัฒน์ จกฺกวโร (๒๕๕๖), เจตสิกปรมัตถ์: คู่มือศึกษาอภิธัมมัตถสังคหะ ปริเฉจที่ ๒, พิมพ์ครั้งที่ ๑.
(๓) พระมหาชินวัฒน์ จกฺกวโร (๒๕๖๓), รูปปรมัตถ์: คู่มือศึกษาอภิธัมมัตถสังคหะ ปริเฉจที่ ๖, พิมพ์ครั้งที่ ๑.
ผู้สนใจศึกษาสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือ และหลักสูตรการศึกษาได้ที่ สำนักงานอภิธรรมมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย วัดระฆังโฆษิตารามวรมหาวิหาร (คณะ ๗) แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ โทร ๐๒ ๔๑๑ ๔๕๔๖, ๑๒ ๔๑๒ ๑๐๘๔, ๐๘๖ ๐๓๘ ๒๙๓๓


  |