ไปยังหน้า : |
ผลจิต ๔ เป็นการนับตามอำนาจแห่งมรรคที่พระโยคีบุคคลนั้นเจริญวิปัสสนาอย่างเดียวจนได้บรรลุมรรคแบบธรรมดาโดยไม่มีฌานเกิดร่วมด้วย เมื่อมรรคนั้น ๆ ดับลงแล้ว ผลจิตของมรรคนั้น ก็เกิดขึ้นติดต่อกันทันทีโดยไม่มีจิตดวงอื่นมาเกิดคั่นระหว่างเลย ฉะนั้น ผลจิตแต่ละชั้นนั้น จึงมีเพียงดวงเดียว เช่นกันกับมรรคจิต ซึ่งมีตามลำดับแห่งผล คือ โสดาปัตติผลจิต ๑ สกิทาคามิผลจิต ๑ อนาคามิผลจิต ๑ อรหัตตผลจิต ๑ รวมเป็นผลจิต ๔ ดวง ดังนี้
ผลจิต ดวงที่ ๑
โสตาปัตติผลจิตตัง
จิตที่เป็นผลแห่งมรรคที่เข้าถึงกระแสแห่งพระนิพพานเป็นครั้งแรกในลำดับแห่งโสดาปัตติมรรคจิต
โสดาปัตติผลจิตนี้ เป็นจิตที่เกิดต่อจากโสดาปัตติมรรคจิตทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น เมื่อโสดาปัตติมรรคจิตเกิดขึ้นกระทำกิจของตนเสร็จเรียบร้อยและดับลงแล้ว โสดาปัตติผลจิตนี้ ก็เกิดขึ้นติดต่อกันทันทีโดยไม่มีจิตดวงอื่นมาเกิดคั่นระหว่างเลยในโสดาปัตติมรรควิถีนั้น เป็นจิตที่เกิดขึ้นเพื่อเสวยรสแห่งพระนิพพานที่โสดาปัตติมรรคญาณได้ทำการประหาณทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยให้หมดสิ้นไปจากขันธสันดานแล้ว หรือเกิดขึ้นในขณะที่พระโสดาบันเข้าผลสมาบัติ เพื่อเสวยความสุขในสภาพของพระนิพพานที่ปราศจากกิเลสตัณหาและขันธ์ทั้งปวง เรียกว่า เสวยวิมุตติสุข ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ฉะนั้น โสดาปัตติผลจิตนี้ จึงเกิดได้กับพระโสดาบันบุคคลเท่านั้น
ผลจิต ดวงที่ ๒
สกิทาคามิผลจิตตัง
จิตที่เป็นผลแห่งมรรคที่เข้าถึงสภาพของพระนิพพานเป็นครั้งที่ ๒ ในลำดับแห่งสกิทาคามิมรรคจิต
สกิทาคามิผลจิตนี้ เป็นจิตที่เกิดต่อสกิทาคามิมรรคจิตทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น เมื่อสกิทาคามิมรรคจิตเกิดขึ้นทำกิจของตนเสร็จเรียบร้อยและดับลงแล้ว สกิทาคามิผลจิตนี้ ก็เกิดขึ้นติดต่อกันทันทีโดยไม่มีจิตดวงอื่นมาเกิดคั่นระหว่างเลยในสกิทาคามิมรรควิถีนั้น เป็นจิตที่เกิดขึ้นเพื่อเสวยรสแห่งพระนิพพานที่สกิทาคามิมรรคญาณได้ทำลายอำนาจของอนุสัยกิเลส ๕ อย่างซึ่งเหลือจากที่โสดาปัตติมรรคญาณได้ประหาณไปแล้วให้อ่อนกำลังลงไปอีก หรือเป็นจิตที่เกิดขึ้นในขณะที่พระสกิทาคามีเข้าผลสมาบัติ เพื่อเสวยความสุขในสภาพของพระนิพพานที่ปราศจากกิเลสตัณหาและขันธ์ทั้งปวง เรียกว่า เสวยวิมุตติสุข ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ฉะนั้น สกิทาคามิผลจิตนี้ จึงเกิดได้กับพระสกทาคามีบุคคลเท่านั้น
ผลจิต ดวงที่ ๓
อนาคามิผลจิตตัง
จิตที่เป็นผลแห่งมรรคที่เข้าถึงกระแสแห่งพระนิพพานเป็นครั้งที่ ๓ ในลำดับแห่งอนาคามิมรรคจิต
อนาคามิผลจิตนี้ เป็นจิตที่เกิดขึ้นติดต่อจากอนาคามิมรรคจิตทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น เมื่ออนาคามิมรรคจิตเกิดขึ้นทำกิจของตนเสร็จเรียบร้อยและดับลงแล้ว อนาคามิผลจิตนี้ ก็เกิดขึ้นติดต่อกันทันทีโดยไม่มีจิตดวงอื่นมาเกิดคั่นระหว่างเลยในอนาคามิมรรควิถีนั้น เพื่อเสวยรสแห่งพระนิพพานที่อนาคามิมรรคญาณได้ทำการประหาณกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยให้หมดสิ้นไปจากขันธสันดานแล้ว หรือเกิดขึ้นในขณะที่พระอนาคามีเข้าผลสมาบัติ เพื่อเสวยความสุขในสภาพของพระนิพพานที่ปราศจากกิเลสตัณหาและขันธ์ทั้งปวง เรียกว่า เสวยวิมุตติสุข ชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรือเกิดขึ้นในขณะที่พระอนาคามีที่ได้สมาบัติ ๘ ใช้เป็นบาทในการเข้านิโรธสมาบัติ ฉะนั้น อนาคามิผลจิตนี้ จึงเกิดได้กับพระอนาคามีบุคคลเท่านั้น
ผลจิต ดวงที่ ๔
อรหัตตผลจิตตัง
จิตที่เป็นผลแห่งมรรคที่เข้าถึงกระแสแห่งพระนิพพานเป็นครั้งที่ ๔ ในลำดับแห่งอรหัตตมรรคจิต
อรหัตตผลจิตนี้ เป็นจิตที่เกิดขึ้นต่อจากอรหัตตมรรคจิตทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น เมื่ออรหัตตมรรคจิตเกิดขึ้นทำกิจของตนเสร็จเรียบร้อยและดับลงแล้ว อรหัตตผลจิตนี้ ก็เกิดขึ้นติดต่อกันทันทีโดยไม่มีจิตดวงอื่นมาเกิดคั่นระหว่างเลยในอรหัตตมรรควิถีนั้น เพื่อเสวยรสแห่งพระนิพพานที่อรหัตตมรรคญาณได้ทำการประหาณภวราคานุสัย มานานุสัยและอวิชชานุสัยให้หมดสิ้นไป เป็นอันหมดสิ้นอนุสัยกิเลสและกองกิเลสทั้งปวงจากขันธสันดานแล้ว หรือเป็นจิตที่เกิดขึ้นในขณะที่พระอรหันต์เข้าผลสมาบัติ เพื่อเสวยความสุขในสภาพของพระนิพพานที่ปราศจากกิเลสตัณหาและขันธ์ทั้งปวง เรียกว่า เสวยวิมุตติสุข ชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรือเป็นจิตที่เกิดขึ้นในขณะที่พระอรหันต์ที่ได้สมาบัติ ๘ ใช้เป็นบาทในการเข้านิโรธสมาบัติ ฉะนั้น อรหัตตผลจิตนี้ จึงเกิดได้กับพระอรหันตบุคคลเท่านั้น