ไปยังหน้า : |
ในคัมภีร์อภิธัมมัตถสังคหะและปรมัตถทีปนีรุ.๒๗๗ ท่านได้แสดงความหมายของหทยรูปไว้ดังต่อไปนี้
คำว่า หทยะ คือ รูปที่ทำให้เกิดความเข้าใจและเป็นที่มาของชื่อนั้นนั่นเอง
อีกนัยหนึ่ง หทยะ คือ รูปที่เหล่าสัตว์ปล่อยความคิดต่าง ๆ ออกไป
อีกนัยหนึ่ง หทยะ คือ รูปที่เหล่าสัตว์คุ้มครองรักษาดั่งชีวิต
เพราะฉะนั้น เมื่อสรุปความแล้ว คำว่า หทยะ ย่อมมีความหมาย ๓ ประการ คือ
๑. รูปที่ทำให้เหล่าสัตว์ทำคุณหรือโทษนั้น ๆ ดังมีวจนัตถะแสดงว่า“หทนฺติ สตฺตา ตํ ตํ อตฺถํ วา อนตฺถํ วา ปูเรนฺติ เอเตนาติ หทยํ” แปลความว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมบำเพ็ญคุณหรือโทษนั้น ๆ โดยอาศัยรูปนั้น เพราะเหตุนั้น รูปอันเป็นเหตุแห่งการบำเพ็ญคุณหรือโทษนั้น ๆ ของสัตว์ทั้งหลาย จึงชื่อว่า หทยะ
๒. รูปที่เหล่าสัตว์ปล่อยความคิดต่าง ๆ ออกมา ดังมีวจนัตถะแสดงว่า “หทนฺติ สตฺตา อิโต นานาวิตกฺเก โอสชฺชนฺติ มุญฺจนฺตีติ หทยํ” แปลความว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมปลดปล่อยความคิดต่าง ๆ ออกมาจากรูปนี้ เพราะเหตุนั้น รูปนี้ จึงชื่อว่า หทยะ
๓. รูปที่เหล่าสัตว์คุ้มครองรักษาดั่งชีวิต ดังมีวจนัตถะแสดงว่า “หรนฺติ ปริหรนฺติ ตํ สตฺตา ชีวิตํ วิย ทยนฺติ รกฺขนฺติ จาติ หทยํ” แปลความว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมบริหารรักษาหรือคุ้มครองป้องกันซึ่งรูปนั้นไว้ราวกะชีวิต เพราะเหตุนั้น รูปนั้น จึงชื่อว่า หทยะ
ในคัมภีร์อภิธัมมัตถสังคหะและอภิธัมมัตถวิภาวินีฎีการุ.๒๗๘ ท่านได้แสดงความหมายของหทยรูปไว้ดังต่อไปนี้
ดวงหทัยนั่นแล เป็นที่อยู่ด้วย เพราะเป็นที่อาศัยแห่งมโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า หทัยวัตถุ จริงอย่างนั้น หทัยวัตถุนั้น มีความเป็นที่อาศัยแห่งธาตุทั้ง ๒ เป็นลักษณะ ก็หทัยวัตถุนั้น อาศัยโลหิตในภายในกล่องดวงหทัยมีประมาณซองมือเป็นไป
ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคอรรถกถา ท่านพระพุทธโฆสาจารย์รุ.๒๗๙ ได้แสดงความหมายของหทยรูปไว้ดังต่อไปนี้
คำว่า หทยํ ได้แก่ เนื้อหัวใจ หัวใจนั้น โดยสี มีสีแดงดังสีหลังกลีบดอกปทุม โดยสัณฐาน มีสัณฐานดังดอกปทุมตูมที่เขาปลิดกลีบชั้นนอกออกแล้วตั้งคว่ำลง ภายนอกเกลี้ยงเกลา ภายในเหมือนกับภายในแห่งรังบวบขม สำหรับคนมีปัญญาย่อมแย้มหน่อยหนึ่ง ของพวกคนมีปัญญาอ่อน คงตูมมิดทีเดียว อนึ่ง ข้างในหัวใจนั้นมีแอ่งขนาดที่เมล็ดบุนนาคตั้งอยู่ได้ เป็นที่ขังอยู่แห่งโลหิตประมาณกึ่งซองมือ ที่มโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุอาศัยเป็นไป ก็โลหิตนี้นั้นของคนราคจริตมีสีแดง ของคนโทสจริตมีสีดำ ของคนโมหจริตมีสีเหมือนน้ำล้างเนื้อ ของคนวิตกจริตมีสีดังเยื่อถั่วฟู ของคนสัทธาจริตมีสีดังดอกกรรณิการ์ ของคนปัญญาจริตใสผ่องไม่ขุ่นมัว ขาวบริสุทธิ์ปรากฏดังสีแก้วมณีแท้ที่เจียระไนแล้ว โดยทิศ เกิดในทิศเบื้องบน [ร่างกายส่วนกลาง ที่เรียกว่า มัชฌิมกาย] โดยโอกาส ตั้งอยู่ระหว่างกลางนม [ราวนม] ทั้ง ๒ ภายในร่างกาย โดยปริจเฉท หัวใจกำหนดด้วยส่วนของหัวใจ นี้เป็นการกำหนดด้วยส่วนที่เป็นสภาคกันแห่งหัวใจ ส่วนการกำหนดด้วยส่วนที่เป็นวิสภาคกันนั้น คือ หัวใจนี้มิใช่ส่วนอื่นมีผมเป็นต้น และผมเป็นต้นนั้นก็มิใช่หัวใจ กำหนดเช่นนี้ว่า ส่วนนั้นเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก ดังนี้ เป็นการกำหนดส่วนที่ไม่เสมอกัน อันนี้เป็นการกำหนดหัวใจโดยลักษณะมีสีเป็นต้น
พระอาจารย์สัทธัมมโชติกะ ธัมมาจริยะรุ.๒๘๐ ได้แสดงความหมายของหทยรูปไว้ดังต่อไปนี้
คำว่า หทยรูป ในที่นี้ มุ่งหมายเอาวัตถุหทยรูป หรือที่เรียกว่า หทยวัตถุรูป แปลว่า รูปอันเป็นที่ตั้งหรือเป็นที่อาศัยเกิดของจิตและเจตสิก ซึ่งตั้งอยู่ในช่องเนื้อหัวใจที่มีลักษณะเหมือนบ่อที่โตประมาณเท่าเมล็ดในดอกบุนนาค ตั้งอยู่ภายในช่องเนื้อหัวใจ มีโลหิตหล่อเลี้ยงอยู่ประมาณ ๑ ซองมือ เป็นที่อาศัยเกิดของมโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุฯ
อาจารย์วรรณสิทธิ ไวทยะเสวีรุ.๒๘๑ ได้แสดงความหมายของหทยรูปไว้ดังต่อไปนี้
หทยรูป เป็นรูปธรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐาน ตั้งอยู่ภายในช่องเนื้อหัวใจ ซึ่งมีลักษณะเหมือนบ่อมีโลหิตอันเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจอยู่ประมาณ ๑ ซองมือ มีสัณฐานโตประมาณเท่าเมล็ดในดอกบุนนาครุ.๒๘๒ เป็นที่อาศัยเกิดของมโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุ
บทสรุปของผู้เขียน:
จากความหมายของหทยวัตถุรูปที่ท่านได้แสดงไปแล้วนั้น สรุปความหมายได้ดังต่อไปนี้
หทยรูป คือ รูปธรรมชนิดหนึ่งอันเป็นที่ตั้งหรือที่อาศัยเกิดของจิตและเจตสิกที่เป็นมโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุ ซึ่งเป็นรูปธรรมที่เกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐาน ตั้งอยู่ภายในช่องเนื้อหัวใจ มีลักษณะเหมือนบ่อน้ำมีสัณฐานโตประมาณเท่าเมล็ดบุนนาค มีโลหิตที่เป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจอยู่ประมาณ ๑ ซองมือ [ตามคัมภีร์วิสุทธิมรรคว่าประมาณกึ่งซองมือ]รุ.๒๘๓
วัตถุ หมายถึง สถานที่เป็นที่อาศัยเกิดของจิตและเจตสิก
หทยวัตถุ หมายถึง หทัยรูปซึ่งเป็นที่อาศัยเกิดของจิตและเจตสิก
หทยวัตถุรูป เป็นรูปที่ซึมซาบอยู่ในบ่อเลือดประมาณครึ่งซองมือ ดำรงอยู่ในก้อนเนื้อหัวใจ ที่เรียกว่า มังสหทยะ ซึ่งมีรูปเหมือนดอกบัวตูมคว่ำ
หทยวัตถุรูป มีคุณลักษณะ คือ เป็นที่อาศัยเกิดของธาตุทั้ง ๒ ได้แก่ มโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุ
มโนธาตุ แปลว่า ธาตุใจ หมายถึง จิตประเภทหนึ่งที่อาศัยหทยวัตถุรูปเกิด แต่ทำหน้าที่รับรู้อารมณ์ทางปัญจทวาร คือ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ซึ่งมีกำลังในการทำหน้าที่น้อยกว่าจิตดวงอื่น ๆ เนื่องจากเป็นจิตที่อาศัยเกิดในสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ทำงานในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง จึงทำให้มีกำลังน้อย ได้แก่ จิต ๓ ดวง คือ ปัญจทวาราวัชชนจิต ๑ ทำหน้าที่อาวัชชนะทางปัญจทวาร และสัมปฏิจฉนจิต ๒ ทำหน้าที่สัมปฏิจฉนะทางปัญจทวาร
มโนวิญญาณธาตุ แปลว่า ธาตุที่รับรู้ทางใจ หมายถึง จิตประเภทหนึ่งที่อาศัยหทยวัตถุรูปเกิด และทำหน้าที่ทางมโนทวารคือภวังคจิต หมายความว่า เป็นจิตที่เกิดขึ้นโดยอาศัยการที่ภวังคจิตกระทบกับอารมณ์ก่อนแล้วจิตเหล่านี้จึงเกิดขึ้นตามลำดับต่อมา เป็นจิตที่มีกำลังในการทำหน้าที่มากกว่าจิตประเภทอื่น ๆ เพราะในบรรดาวัตถุรูปทั้งหมดนั้น หทยวัตถุรูปย่อมมีกำลังมากกว่าวัตถุรูปอย่างอื่น และทวารคือภวังคจิตก็มีสภาพเป็นนามธรรมอย่างเดียวกันกับมโนวิญญาณธาตุ จึงเป็นปัจจัยแก่กันและกันได้เป็นอย่างมาก สามารถรองรับการเกิดขึ้นของจิตและเจตสิกได้มากกว่าวัตถุรูปอื่น ๆ
วัตถุรูป ๖ คือ จักขุวัตถุ โสตวัตถุ ฆานวัตถุ ชิวหาวัตถุ กายวัตถุ และหทยวัตถุ มีคุณลักษณะ คือ เป็นที่อาศัยเกิดของวิญญาณธาตุ ๗ แต่ละอย่างตามสมควร กล่าวคือ
จักขุวัตถุ คือ ประสาทตา เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุวิญญาณธาตุ
โสตวัตถุ คือ ประสาทหู เป็นที่อาศัยเกิดของโสตวิญญาณธาตุ
ฆานวัตถุ คือ ประสาทจมูก เป็นที่อาศัยเกิดของฆานวิญญาณธาตุ
ชิวหาวัตถุ คือ ประสาทลิ้น เป็นที่อาศัยเกิดของชิวหาวิญญาณธาตุ
กายวัตถุ คือ ประสาทกาย เป็นที่อาศัยเกิดของกายวิญญาณธาตุ
หทยวัตถุ คือ หัวใจ เป็นที่อาศัยเกิดของมโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุ