ไปยังหน้า : |
ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ มีพระมหาเถระ ๒ รูป รูปหนึ่งมีพรรษา ๖๐ อีกรูปหนึ่งมีพรรษา ๕๙ สนิทสนมรักกันมากเหมือนพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน จำพรรษาอยู่ในอาวาสแห่งหนึ่ง ซึ่งสมบูรณ์ด้วยลาภสักการะ ต่อมา มีพระธรรมกถึกรูปหนึ่ง มาขออยู่ในอาวาสนั้นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นวัดที่มีลาภสักการะมาก อยู่ได้ไม่นาน พระธรรมกถึกนั้นคิดขับไล่พระเถระทั้ง ๒ รูปนั้นออกไปจากอาวาสนั้น เพื่อตนเองจะได้ครอบครองวัดและลาภสักการะเพียงผู้เดียว จึงเข้าไปหาทีละรูป แล้วพูดว่า เมื่อวานกระผมมาที่นี่ พระเถระรูปนั้น บอกผมว่า คุณเป็นคนดี จะคบหาสมาคมกับพระมหาเถระ ต้องพิจารณาให้ดีก่อน พูดเหมือนกับรู้ความลับ ความเสียหายของท่าน เสร็จแล้ว ก็เข้าไปหาอีกรูปหนึ่ง พูดอย่างเดียวกันนั้น แรก ๆ ทั้ง ๒ รูปไม่เชื่อ แต่นานไป เกิดบาดหมางกัน ในที่สุดก็แตกสามัคคีกัน ต่างรูปต่างออกจากวัด พระธรรมกถึก จึงได้ครองวัดนั้นแต่เพียงรูปเดียว เมื่อพระธรรมกถึกนั้นมรณภาพแล้ว ไปเกิดในมหานรกอเวจี พ้นจากนรกนั้นแล้ว จึงไปเกิดเป็นเปรต ร่างกายเหมือนมนุษย์ มีศีรษะเหมือนสุกร ต้องเสวยทุกข์อยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏ การพูดที่ทำให้คนแตกสามัคคีกัน เป็นบาปหนัก ดังนี้แล