ไปยังหน้า : |
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๑
วิตักกวิจารปีติสุขเอกัคคตาสหิตัง ปฐมัชฌาน อนาคามิมัคคจิตตัง
ปฐมฌานอนาคามิมรรคจิต ๑ เกิดพร้อมด้วยองค์ฌาน ๕ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๑ นี้เป็นจิตที่เกิดขึ้นโดยฌานลาภีบุคคลที่เป็นพระสกิทาคามีใช้รูปาวจรปฐมฌานกุศลเป็นบาทในการเจริญวิปัสสนา โดยการเข้าปฐมฌาน เมื่อออกจากปฐมฌานแล้ว ก็พิจารณาสภาพขององค์ฌาน คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา หรือพิจารณาสภาพของปฐมฌานกุศลจิต ซึ่งเป็นสภาพนามธรรมนั้นให้เห็นโดยความเป็นไตรลักษณ์ จนกระทั่งวิปัสสนาญาณเกิดขึ้นตามลำดับ จนถึงอนาคามิมรรคญาณเกิดขึ้น พร้อมกับการประหาณอนุสัยกิเลสอีก ๒ อย่าง คือ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยให้เป็นสมุจเฉทปหาน
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๒
วิจารปีติสุขเอกัคคตาสหิตัง ทุติยัชฌานอนาคามิมัคคจิตตัง
ทุติยฌานอนาคามิมรรคจิต ๑ เกิดพร้อมด้วยองค์ฌาน ๔ คือ วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๒ นี้เป็นจิตที่เกิดขึ้นโดยฌานลาภีบุคคลที่เป็นพระสกิทาคามีใช้รูปาวจรทุติยฌานกุศลเป็นบาทในการเจริญวิปัสสนา โดยการเข้าทุติยฌาน เมื่อออกจากทุติยฌานแล้ว ก็พิจารณาสภาพขององค์ฌาน คือ วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา หรือพิจารณาสภาพของทุติยฌานกุศลจิต ซึ่งเป็นสภาพนามธรรมนั้นให้เห็นโดยความเป็นไตรลักษณ์ จนกระทั่งวิปัสสนาญาณเกิดขึ้นตามลำดับ จนถึงอนาคามิมรรคญาณเกิดขึ้น พร้อมกับการประหาณอนุสัยกิเลสอีก ๒ อย่าง คือ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยให้เป็นสมุจเฉทปหาน
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๓
ปีติสุขเอกัคคตาสหิตัง ตติยัชฌานอนาคามิมัคคจิตตัง
ตติยฌานอนาคามิมรรคจิต ๑ เกิดพร้อมด้วยองค์ฌาน ๓ คือ ปีติ สุข เอกัคคตา
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๓ นี้เป็นจิตที่เกิดขึ้นโดยฌานลาภีบุคคลที่เป็นพระสกิทาคามีใช้รูปาวจรตติยฌานกุศลเป็นบาทในการเจริญวิปัสสนา โดยการเข้าตติยฌาน เมื่อออกจากตติยฌานแล้ว ก็พิจารณาสภาพขององค์ฌาน คือ ปีติ สุข เอกัคคตา หรือพิจารณาสภาพของตติยฌานกุศลจิต ซึ่งเป็นสภาพนามธรรมนั้นให้เห็นโดยความเป็นไตรลักษณ์ จนกระทั่งวิปัสสนาญาณเกิดขึ้นตามลำดับ จนถึงอนาคามิมรรคญาณเกิดขึ้น พร้อมกับการประหาณอนุสัยกิเลสอีก ๒ อย่าง คือ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยให้เป็นสมุจเฉทปหาน
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๔
สุขเอกัคคตาสหิตัง จตุตถัชฌานอนาคามิมัคคจิตตัง
จตุตถฌานอนาคามิมรรคจิต ๑ เกิดพร้อมด้วยองค์ฌาน ๒ คือ สุข เอกัคคตา
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๔ นี้เป็นจิตที่เกิดขึ้นโดยฌานลาภีบุคคลที่เป็นพระสกิทาคามีใช้รูปาวจรจตุตถฌานกุศลเป็นบาทในการเจริญวิปัสสนา โดยการเข้าจตุตถฌาน เมื่อออกจากจตุตถฌานแล้ว ก็พิจารณาสภาพขององค์ฌาน คือ สุข เอกัคคตา หรือพิจารณาสภาพของจตุตถฌานกุศลจิต ซึ่งเป็นสภาพนามธรรมนั้นให้เห็นโดยความเป็นไตรลักษณ์ จนกระทั่งวิปัสสนาญาณเกิดขึ้นตามลำดับ จนถึงอนาคามิมรรคญาณเกิดขึ้น พร้อมกับการประหาณอนุสัยกิเลสอีก ๒ อย่าง คือ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยให้เป็นสมุจเฉทปหาน
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๕
อุเปกขาเอกัคคตาสหิตัง ปัญจมัชฌานอนาคามิมัคคจิตตัง
ปัญจมฌานอนาคามิมรรคจิต ๑ เกิดพร้อมด้วยองค์ฌาน ๒ คือ อุเบกขา เอกัคคตา
อนาคามิมรรคจิต ดวงที่ ๕ นี้เป็นจิตที่เกิดขึ้นโดยฌานลาภีบุคคลที่เป็นพระสกิทาคามีใช้รูปาวจรปัญจมฌานกุศลเป็นบาทในการเจริญวิปัสสนา โดยการเข้าปัญจมฌาน เมื่อออกจากปัญจมฌานแล้ว ก็พิจารณาสภาพขององค์ฌาน คือ อุเบกขา เอกัคคตา หรือพิจารณาสภาพของปัญจมฌานกุศลจิต ซึ่งเป็นสภาพนามธรรมนั้นให้เห็นโดยความเป็นไตรลักษณ์ จนกระทั่งวิปัสสนาญาณเกิดขึ้นตามลำดับ จนถึงอนาคามิมรรคญาณเกิดขึ้น พร้อมกับการประหาณอนุสัยกิเลสอีก ๒ อย่าง คือ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยให้เป็นสมุจเฉทปหาน