ไปยังหน้า : |
คันธรูปหรือคันธารมณ์ อันได้แก่ กลิ่นต่าง ๆ มีกลิ่นหอมและกลิ่นเหม็น เป็นต้น ซึ่งมีสภาพที่สามารถกระทบกับฆานปสาทได้เป็นคุณลักษณะ มีการเป็นอารมณ์แก่ฆานวิญญาณจิต อันเป็นหน้าที่ที่สำเร็จมาจากคุณสมบัติเฉพาะตน มีความเป็นอารมณ์ให้แก่ฆานวิญญาณนั่นเองเป็นผลปรากฏ ที่บัณฑิตสามารถกำหนดพิจารณารู้ได้ด้วยปัญญา และเป็นรูปธรรมที่จะปรากฏเกิดขึ้นได้ต้องมีมหาภูตรูปทั้ง ๔ เป็นเหตุใกล้ให้เกิด คือ เป็นฐานรองรับอันสำคัญ จะเกิดขึ้นโดยลำพังตนเอง หรือเกิดขึ้นโดยปราศจากมหาภูตรูปเป็นเครื่องรองรับนั้น ย่อมไม่มี
คันธรูปหรือคันธารมณ์คือกลิ่นต่าง ๆ นั้น ย่อมเกิดมาจากสมุฏฐาน ๔ ประการ เพราะฉะนั้น จึงจำแนกเป็น ๔ ประเภทตามสมุฏฐานที่เป็นแดนให้เกิดขึ้น กล่าวคือ
๑. กัมมชคันธรูป คือ คันธรูปที่เกิดจากกรรม ได้แก่ กลิ่นที่ออกจากอวัยวะในตัวของมนุษย์ เทวดา มาร พรหม และสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่าที่มีรูปร่าง ซึ่งมีทั้งกลิ่นหอมและกลิ่นเหม็น ถ้าสัตว์ตนใดตัวมีกลิ่นหอม ย่อมเป็นกลิ่นที่เกิดจากกุศลกรรม ถ้าสัตว์ตนใดตัวมีกลิ่นเหม็น ย่อมเป็นกลิ่นที่เกิดจากอกุศลกรรม
๒. จิตตชคันธรูป คือ คันธรูปที่เกิดจากจิต ได้แก่ กลิ่นที่ออกจากอวัยวะในตัวของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย คล้ายกับกัมมชคันธรูป แต่เกิดจากปฏิกิริยาของจิต ซึ่งออกมาในสภาพที่เป็นอุตุชรูป เรียกว่า จิตตปัจจยอุตุชรูป ถ้าเป็นกลิ่นหอมย่อมเกิดจากอำนาจจิตที่เป็นกุศล ถ้าเป็นกลิ่นเหม็นย่อมเกิดจากอำนาจจิตที่เป็นอกุศล
๓. อุตุชคันธรูป คือ คันธรูปที่เกิดจากอุณหภูมิหรือสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้แก่ กลิ่นที่ออกจากอวัยวะของสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งหลุดออกจากร่างกายไปแล้ว หรือกลิ่นของสิ่งปฏิกูลที่หลั่งไหลออกจากร่างกายของทั้งหลาย มีอุจจาระ ปัสสาวะ เหงื่อไคล เป็นต้น และกลิ่นของสิ่งไม่มีชีวิตทั้งหลายที่นอกจากกลิ่นที่ออกมาจากอวัยวะของสัตว์ดังกล่าวแล้ว ได้แก่ กลิ่นแห่งส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ กลิ่นดิน กลิ่นน้ำ กลิ่นไฟ กลิ่นลม กลิ่นอากาศ เป็นต้น
๔. อาหารชคันธรูป คือ คันธรูปที่เกิดอาหาร ได้แก่ กลิ่นที่เกิดจากอาหารภายนอกร่างกายสัตว์ ที่เรียกว่า พหิทธโอชา เช่น กลิ่นข้าว กลิ่นปลา เป็นต้น และกลิ่นที่เกิดจากอาหารภายในร่างกายของสัตว์ ที่เรียกว่า อัชฌัตตโอชา ได้แก่ กลิ่นของไฟธาตุที่ย่อยอาหารหรือกลิ่นน้ำย่อยนั่นเอง