ไปยังหน้า : |
น้ำปานะ ถือว่า เป็นเครื่องดื่มที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุสามเณร [รวมทั้งภิกษุณี สามเณรี และนางสิกขมานา] ฉันได้ในเวลาวิกาล คือ ตั้งแต่เวลาเที่ยงแล้วไปจนถึงวันใหม่ จัดอยู่ในกาลิกประเภทที่ ๒ เรียกว่า ยามกาลิก แปลว่า ราตรีหนึ่ง หมายความว่า เป็นของที่บรรพชิตในพระพุทธศาสนาสามารถรับประเคนและเก็บไว้ฉันได้วันหนึ่งกับคืนหนึ่ง เลยจากนั้นไป ฉันไม่ได้ เพราะในน้ำปานะเหล่านี้มีปริมาณแอลกอฮออยู่มาก เมื่อเก็บนานย่อมกลายเป็นน้ำเมาไป น้ำปานะเหล่านี้นิยมเรียกว่า อัฏฐบาน แปลว่า เครื่องดื่ม ๘ อย่างรุ.๘๑ ซึ่งมีปรากฏอยู่ในเกณิยชฎิลวัตถุ เภสัชชขันธกะ มหาวรรค พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๕ ดังนี้
๑. อัมพปานะ น้ำมะม่วง
๒. ชัมพุปานะ น้ำผลหว้า
๓. โจจปานะ น้ำกล้วยมีเมล็ด
๔. โมจปานะ น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด
๕. มธุกปานะ น้ำผลมะซาง
๖. มุททิกปานะ น้ำผลองุ่นหรือน้ำลูกจันทน์
๗. สาลุกปานะ น้ำเหง้าบัว
๘. ผารุสกปานะ น้ำผลมะปรางหรือผลลิ้นจี่
ในน้ำปานะเหล่านี้ ว่าโดยสภาวะรูปปรมัตถ์แล้ว ได้แก่ อวินิพโภครูป ๘ ที่เป็นสุทธัฏฐกกลาป หรือเป็น ลหุตาทิเอกาทสกกลาป คือ กลุ่มรูป ๑๑ รูป ได้แก่ อวินิพโภครูป ๘ และวิการรูป ๓ ซึ่งเกิดจากอุตุและอาหารเป็นสมุฏฐาน มีอาโปธาตุคือธาตุน้ำเป็นส่วนผสมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีสภาพเอิบอาบและไหลได้