| |
อุปมาแห่งกาม ๑๐ ประการ   |  

ในอลคัททูปมสูตร โอปัมมวรรค มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงอุปมากามไว้ ๑๐ ประการรุ.๒๔๕ คือ

๑. อัฏฐิกังกลูปมา อุปมาเหมือนร่างกระดูกที่ถูกสุนัขแทะ

๒. มังสเปสูปมา อุปมาเหมือนชิ้นเนื้อเป็นที่ปรารถนาของฝูงแร้ง

๓. ติณุกกูปมา อุปมาเหมือนคบเพลิงหญ้าที่จะไหม้คนถือ

๔. อังคารกาสูปมา อุปมาเหมือนหลุมถ่านเพลิงที่อันตรายต่อผู้ตกลงไป

๕. สุปินกูปมา อุปมาเหมือนความฝัน ที่ว่างเปล่าเมื่อตื่นขึ้น

๖. ยาจิตกูปมา อุปมาเหมือนของที่ยืมเขามา ซึ่งจะต้องใช้คืนให้เหมือนเดิม

๗. รุกขผลูปมา อุปมาเหมือนผลไม้ในป่า เป็นที่ต้องการของผู้แสวงหา

๘. สัตติสูลูปมา อุปมาเหมือนหอกที่ใช้ประหาร เมื่อเสียบแทงเข้าไปแล้ว ชักออกได้ยาก

๙. อสิสูนูปมา อุปมาเหมือนเขียงสับเนื้อ แม้มีเนื้ออยู่บนตนเองมากมาย แต่ก็มีเนื้อเข้าไปในตนเองเพียงนิดหน่อย แถมยังถูกสับฟันกระทบอย่างหนักหน่วง

๑๐. สัปปสิรูปมา อุปมาเหมือนอสรพิษที่สามารถขบกัดได้เสมอ

อธิบายความว่า

๑. กามเปรียบเหมือนสุนัขหิวแทะท่อนกระดูกเปื้อนเลือด หมายความว่า สุนัขที่แทะกระดูกนั้น ยิ่งแทะ ยิ่งเหนื่อย อร่อยแต่ไม่เต็มอิ่ม ข้อนี้ฉันใด ความสุขจากกาม ก็ฉันนั้น มีความสุขเพียงประเดี๋ยวประด๋าว แล้วก็หิวอีก ทั้งต้องเหน็ดเหนื่อยลำบากทุกข์ยากในการแสวงหาและการเสพอยู่ร่ำไป

๒. กามเปรียบเหมือนชิ้นเนื้อที่แร้งหรือเหยี่ยวคาบบินมา หมายความว่า เนื้อที่ถูกแร้งกาหรือเหยี่ยวคาบบินมานั้น ต้องถูกแย่งชิงโดยนกตัวอื่น นกตัวที่คาบมาก็ต้องต่อสู้ปกป้องตลอดเวลา ทำให้เนื้อถูกแย่งชิงฉีกขาดออกจากกัน ฉันใด กามทั้งหลายมีทรัพย์สินเงินทอง ภรรยาสามี เป็นต้น ก็ฉันนั้น บุคคลผู้เป็นเจ้าของก็ต้องหวงแหนรักษา มีทรัพย์มากก็กลัวโจรผู้ร้ายแย่งชิง มีคนรักก็ต้องคอยหึงหวง ยิ่งสวยยิ่งหล่อก็ยิ่งมีคนอยากแย่งชิง เป็นต้น

๓. กามเปรียบเหมือนคนถือคบเพลิงที่ทำด้วยหญ้าซึ่งกำลังลุกโพลงและต้องเดินทวนลมไป หมายความว่า คบเพลิงที่บุคคลถืออยู่นั้น ถือได้ไม่นานก็ต้องทิ้งไป เพราะเปลวเพลิงย่อมลุกลามไหม้มือ แถมถูกควันไฟรมเอาตลอดเวลาที่ถือด้วย ข้อนี้ฉันใด กามทั้งหลายมียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นต้น มีไว้ก็เหนื่อยในการรักษา กลัวคนอื่นเลื่อยให้ตกจากเก้าอี้ ต้องเอาใจเจ้านาย เอาใจประชาชน ต้องรักษาหวงแหนทุกวิธีทาง แต่สุดท้ายก็ต้องหลุดลอยไปหรือต้องละทิ้งหมดไป

๔. กามเปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิงอันร้อนแรง หมายความว่า หลุมถ่านเพลิงย่อมมีสภาพร้อนแรง และยังสัตว์หรือบุคคลที่ตกลงไปให้ได้รับความร้อนรุ่ม ลวกไหม้ และดาวดิ้นสิ้นใจตายไป ฉันใด กามทั้งหลายก็ฉันนั้น ย่อมเป็นที่รักที่น่าปรารถนาของบุคคลทั้งหลาย และที่ใดมีรัก ที่นั้นย่อมมีทุกข์ติดตามมา มีรักมาก ก็ทุกข์มากตามไปด้วย เมื่อใจของบุคคลใดตกไปในความรักแล้ว ก็เหมือนกับตกลงไปในหลุมถ่านเพลิงอันมีสภาพร้อนแรง บุคคลนั้นย่อมมีจิตใจที่ร้อนรุ่มด้วยอำนาจความรักความหวงแหน กลัวจะเสียคนรักหรือสิ่งที่รักไป ใจย่อมมีสภาพเหมือนไฟเผาผลาญตลอดเวลา

๕. กามเปรียบเหมือนความฝัน หมายความว่า ความฝันย่อมเห็นสิ่งต่าง ๆ ในเวลาหลับ แต่เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว ย่อมไม่เห็นสิ่งนั้นจริง ๆ ฉันใด กามทั้งหลายก็ฉันนั้น ที่บุคคลคาดหวังว่าจะให้ความสุขอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เมื่อได้ประสบหรือเสพเข้าจริง ๆ แล้ว กลับเป็นเรื่องที่ต้องเหน็ดเหนื่อยลำบากและเป็นทุกข์นานาประการ

๖. กามเปรียบเหมือนสมบัติที่ยืมเขามา หมายความว่า ทรัพย์สมบัติที่ยืมคนอื่นมานั้น ย่อมมีพันธะที่จะต้องคืนเจ้าของ และมีภาระที่จะต้องรักษาหวงแหนไว้ให้อยู่ในสภาพเดิม ต้องลำบากในการดูแลรักษา ใช้สอยได้ไม่เต็มที่ ไม่เหมือนกับที่เป็นของตน ฉันใด กามทั้งหลายก็ฉันนั้น ย่อมไม่อยู่กับบุคคลตลอดไป มันแปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา เมื่อตายแล้ว ก็ครอบครองไว้หรือเอาติดตัวไปไม่ได้ ต้องลำบากในการดูแลรักษาหวงแหน และเสียดายเมื่อต้องจากไป

๗. กามเปรียบเหมือนต้นไม้ที่มีผลดกอยู่ในป่า หมายความว่า ผลไม้ที่เป็นของสาธารณะอยู่ป่านั้น ใครผ่านไปผ่านมาก็เข้ามาเด็ดผลหักรานกิ่งก้านสาขาได้ตามใจชอบ ฉันใด กามทั้งหลายก็ฉันนั้น ใครเป็นเจ้าของก็ต้องทุกข์ยากลำบากในการระวังรักษา แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงของสาธารณะที่ผลัดกันชม เมื่อบุคคลนั้นตายไปแล้ว ย่อมหมดสภาพความเป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่าง จากไปแต่ตัวเปล่าเท่านั้น

๘. กามเปรียบเหมือนเขียงสับเนื้อ หมายความว่า เขียงสับเนื้อต้องถูกโขกสับอยู่เสมอ แม้ถูกใช้สับเนื้อมากมาย ก็มีเศษเนื้อเข้าไปติดอยู่ในเขียงเพียงนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้ลิ้มรสเนื้อให้สมกับความทุกข์ที่ถูกโขกสับนั้นเลย ฉันใด ชีวิตของคฤหัสถ์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้น ต้องถูกโขกสับตลอดเวลา ต้องดิ้นรนลำบากในการหาทรัพย์ กลางคืนเป็นควัน กลางวันเป็นไฟ ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้สึกอิ่มหรือพอเลย จึงต้องดิ้นรนตลอดเวลา ได้มาแล้ว ก็ใช้ได้ไม่พอกับความต้องการ

๙. กามเปรียบเหมือนหอกและหลาว หมายความว่า ธรรมดาหอกหรือหลาวย่อมมีคม สัตว์หรือบุคคลใดไปกระทบถูกต้องแล้ว ต้องประสบกับทุกข์แสนสาหัส ฉันใด ใจของบุคคลเมื่อถูกทิ่มแทงด้วยกามแล้ว ย่อมประสบกับความทุกข์นานาประการ เช่น ทุกข์เพราะรัก ทุกข์เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ทุกข์เพราะประสบกับสิ่งที่ไม่ต้องการ เป็นต้น ก็ฉันนั้น ล้วนแต่เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ทรมาน และความเจ็บปวดแสนสาหัสทั้งสิ้น

๑๐. กามเปรียบเหมือนหัวงูพิษ หมายความว่า อสรพิษร้าย ย่อมมีพิษและเป็นภัยอันตรายมากมาย หากไม่ระวัง อาจถูกฉกกัดถึงตายได้ ฉันใด กามทั้งหลายก็ฉันนั้น ย่อมมีภัยมากมาย กามนำภัยมาสู่ตน เช่น ติดเอดส์ นำไปสู่อบาย เป็นต้น และเป็นเหตุนำความทุกข์ทรมานต่าง ๆ มาให้แก่บุคคลผู้ยึดติดพัวพันอย่างไม่สิ้นสุด


เกี่ยวกับตำราอภิธรรม ออนไลน์ (Disclaimer)
ตำราอภิธรรมออนไลน์ พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของอภิธรรมมหาวิทยาลัย วัดระฆังฯ วัดญาณเวศกวัน และ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เพื่อนำเสนอสื่อธรรมสำหรับการศึกษาค้นคว้า โดยได้รับอนุญาต และเอกสารต้นฉบับจากผู้เขียน ดังนี้
(๑) พระมหาชินวัฒน์ จกฺกวโร (๒๕๕๒), จิตปรมัตถ์: คู่มือศึกษาอภิธัมมัตถสังคหะ ปริเฉจที่ ๑, พิมพ์ครั้งที่ ๑.
(๒) พระมหาชินวัฒน์ จกฺกวโร (๒๕๕๖), เจตสิกปรมัตถ์: คู่มือศึกษาอภิธัมมัตถสังคหะ ปริเฉจที่ ๒, พิมพ์ครั้งที่ ๑.
(๓) พระมหาชินวัฒน์ จกฺกวโร (๒๕๖๓), รูปปรมัตถ์: คู่มือศึกษาอภิธัมมัตถสังคหะ ปริเฉจที่ ๖, พิมพ์ครั้งที่ ๑.
ผู้สนใจศึกษาสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือ และหลักสูตรการศึกษาได้ที่ สำนักงานอภิธรรมมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย วัดระฆังโฆษิตารามวรมหาวิหาร (คณะ ๗) แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ โทร ๐๒ ๔๑๑ ๔๕๔๖, ๑๒ ๔๑๒ ๑๐๘๔, ๐๘๖ ๐๓๘ ๒๙๓๓


  |