ไปยังหน้า : |
ในคัมภีร์อภิธัมมัตถสังคหะและปรมัตถทีปนีรุ.๒๑๓ ได้แสดงความหมายของคันธรูปไว้ดังต่อไปนี้
คำว่า คันธะ [คันธารมณ์คือกลิ่น] คือ รูปที่ประกาศ หมายความว่า เป็นรูปที่ประกาศที่ตั้งของตน
อีกนัยหนึ่ง คำว่า โค คือ สิ่งที่ไปได้ หมายถึง ลม
คำว่า คันธะ หมายถึง รูปที่ถูกลมทรงไว้
เพราะฉะนั้น เมื่อสรุปความแล้ว คันธรูปย่อมมีความหมาย ๒ ประการ คือ
๑. รูปที่ประกาศที่ตั้งของตน ดังมีวจนัตถะแสดงว่า“คนฺธยติ อตฺตโน วตฺถุ สูเจตีติ คนฺโธ” แปลความว่า รูปใดย่อมแสดงที่อยู่อาศัยของตนให้ปรากฏ เพราะฉะนั้น รูปนั้นชื่อว่า คันธะ
๒. รูปที่ถูกลมทรงไว้ ดังมีวจนัตถะแสดงว่า “คาเวน ธารียตีติ คนฺโธ” แปลความว่า รูปใดอันโค [ลม] ย่อมทรงไว้ เพราะเหตุนั้น รูปนั้น จึงชื่อว่า คันธะ
บทสรุปของผู้เขียน :
คันธรูป ได้แก่ คันธารมณ์ คือ กลิ่นต่าง ๆ หมายถึง ไอระเหยของรูปกลิ่นต่าง ๆ ที่กระทบกับฆานประสาท โดยอาศัยลมเป็นผู้นำพาไป และทำให้เกิดฆานวิญญาณ คือ การรู้กลิ่นต่าง ๆ ขึ้น คันธะที่ปรากฏเป็นอารมณ์ให้แก่ฆานวิญญาณจิตนี้ชื่อว่า คันธารมณ์ ซึ่งมีความหมายเป็น ๒ อย่าง คือ
๑. รูปที่ประกาศที่ตั้งของตน หมายความว่า คันธรูปหรือคันธารมณ์ อันได้แก่ กลิ่นต่าง ๆ นั้น เมื่อฟุ้งกระจายออกไปโดยอาศัยลมพัดพาไปแล้ว ย่อมทำให้บุคคลผู้มีฆานปสาทสามารถรับรู้ได้ และเมื่อมนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลายได้รับกลิ่นนั้น ๆ แล้ว ย่อมสามารถค้นหาทิศทางที่มาของกลิ่นและหาสิ่งที่กลิ่นนั้นอาศัยเกิดอยู่ได้
๒. รูปที่ถูกลมทรงไว้ หมายความว่า คันธรูปหรือคันธารมณ์นี้ จะแผ่กระจายไปสู่สถานที่ต่าง ๆ ได้ ต้องมีลมพัดพาไป หรือแม้แต่จะกระทบกับฆานปสาทได้ ก็ต้องมีลมพัดพาเข้าไปเช่นเดียวกัน ไม่สามารถกระทบกับฆานปสาทได้ด้วยตนเอง เพราะฉะนั้น คันธรูปหรือคันธารมณ์นี้ จึงชื่อว่า มีลมอุปถัมภ์อุ้มชูไว้